อย่างที่ทราบกันดีว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งต่อเติมใดๆ ต่างก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทั้งนั้น ป้ายไฟร้านอาหารก็เช่นกัน ซึ่งบทความนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องพระราชบัญญัติภาษีป้าย สำหรับป้ายไฟร้านอาหารกัน ว่าพระราชบัญญัติภาษีป้าย สำหรับป้ายไฟร้านอาหารนั้นมีกฎข้อบังคับใดบ้าง และแต่ละกฎข้อบังคับขึ้นตรงต่อใครบ้าง บทความนี้มีคำตอบทั้งหมดนั้นมาให้แล้ว
พระราชบัญญัติภาษีป้าย สำหรับป้ายไฟร้านอาหาร
พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.2510 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2510 เป็นปีที่ 22 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแยกกฎหมายเกี่ยวกับภาษีป้ายออกจากประมวลรัษฎากร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาร่างรัฐธรรมนูญในฐานะรัฐสภา ดังต่อไปนี้
- มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.2510
- มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2511 เป็นต้นไป
- มาตรา 3 ให้ยกเลิกหมวด 5 ภาษีป้ายในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
- มาตรา 4 เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เทศบาลใดอยู่ในความควบคุมดูแลของกระทรวงมหาดไทย เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เทศบาลใดอยู่ในความควบคุมดูแลของกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล บรรดาอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย
- มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ กับให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราภาษีป้ายไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือ พระราชบัญญัติภาษีป้าย สำหรับป้ายไฟร้านอาหารที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ ทั้งนิ หากคุณปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเหล่านี้ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวล คุณก็สามารถเปิดร้านอาหาร และใช้ป้ายไฟร้านอาหารได้อย่างเต็มที่ แต่หากคุณไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเหล่านี้ คุณก็ต้องตระหนักไว้แล้วว่าคุณอาจโดนบทลงโทษเมื่อใดก็ได้นั่นเอง